ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่หลายคนเบื่อเพราะว่าไปไหนไม่ได้ ต้องอยู่บ้านจากสถานการณ์โควิท 19 แม้ว่าการอยู่บ้านมันสุดแสนจะน่าเบื่อ มองอีกมุมเราก็สามารถแปรเปลี่ยนสถานการณ์ตรงนี้ใช้เวลาเล่นเกมที่อยากเล่นแต่ไม่ได้เล่นสักทีก็ได้อย่างหนึ่งด้วย หนึ่งในเกมที่เราขอแนะนำให้หามาเล่นช่วงนี้ก็คือ Dragon Ball Z : Kakarot เกมดรากอนบอลที่เชื่อว่าแฟนทั่วไป แฟนคลับ หรือ แฟนเดนตายของการ์ตูนเรื่องนี้ไม่ควรพลาด
ลักษณะของเกม
สำหรับเกมนี้ ทำขึ้นจากทีมงานชั้นนำอย่าง Bandai Namco แค่ชื่อก็รับประกันคุณภาพได้เลย ทีมงานชุดนี้จะถนัดมากในการหยิบการ์ตูนดังๆของญี่ปุ่น มาทำเป็นเกม โดยเกม Dragon Ball Z: Kakarot สร้างขึ้นมาโดยยึดรูปแบบเป็น Action Rpg แบบ open world โดยเราจะใช้การบังคับแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่ง สลับกับมุมมองบุคคลที่สาม
เนื้อเรื่องของเกม
ด้านเนื้อเรื่องเกมนี้จะตั้งต้นมาตั้งแต่ช่วงศึกชาวไซย่า จนถึงจบภาพจอมมารบู(อันนี้ขัดใจเล็กน้อย ถ้าไปเริ่มมาตั้งแต่โกคูพระเอกของเราตอนเด็กเลย น่าจะสนุกกว่านี้ เรื่องราวตอนเด็กมีประเด็นน่าสนใจเยอะเหมือนกัน) แม้ว่าเนื้อเรื่องเราจะรู้จักกันดีแบบท่องได้เลยสำหรับแฟนคลับหลายคน แต่ตัวเกมก็จะสอดแทรกเพิ่มเติมบางจุดลงไปให้เป็นจุดพิเศษของเกมด้วยเหมือนกัน แต่ไม่ทำให้เนื้อเรื่องโดยรวมเสียไปแน่นอน อีกเรื่องเกมนี้ตัวอาจารย์โทริยาม่าเจ้าของลิขสิทธิ์ บอกไว้เลยวว่าจะเอาเนื้อเรื่องส่วนภาคหลักหรือ canon เท่านั้นไม่เอาภาคเสริม ภาคแยก หรือ ภาคต่อจากนั้นมารวมด้วยในเกมนี้
คัตซีน สิ่งที่พลาดไม่ได้
ตัวเกมก็น่าสนใจ แต่เกมสมัยนี้ต้องยอมรับว่า คัตซีน หรือ ฉากต่อสู้ ฉากอนิเมชั่นในเกมเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่แฟนเกมพลาดไม่ได้เลยทีเดียว เกมนี้เองก็เช่นกันพอเราเล่นไปถึงฉากที่กำหนด เกมจะตัดพาเราไปดูอนิเมชั่นที่เกี่ยวกับเรื่องราวตรงนั้น อันนี้บอกเลยว่าภาพสวยมาก ยิ่งถ้าใครเคยดูอนิเมชั่น ดราก้อนบอล มาตั้งแต่ยุค 90 บอกเลยว่าคราวนี้เราจะเห็นภาพชัดกว่าเดิมจนต้องอุทานออกมาว่า ว้าว เลยทีเดียว
ภาพสวย แต่เกมเพลย์ ไม่ง่าย
นอกจากภาพคัตซียสวยๆแล้ว เรื่องของภาพโดยรวมของเกม Dragon Ball Z: Kakarot ถือว่ายอดเยี่ยมเลย ไม่ว่าจะเป็นภาพกราฟฟิคในฉากต่อสู้ที่เรื่องแอ็คชั่น ท่าทาง พลังงานที่ปล่อยออกมา ถือว่าสมจริง แบบระเบิดโลกทำลายจักวาลตามสไตล์ dragon ball แต่เรื่องที่ดูจะขัดใจไม่น้อย คงเป็นเรื่องของเกมเพลย์ ระบบเกมต่อสู้ที่บอกเลยว่าไม่ง่ายอย่างที่เราคิด จนอาจจะทำให้หงุดหงิดได้เลย เกมนี้ในฉากต่อสู้จะเป็นแบบ แอคชั่น 360 องศา แบบเกมเวอร์ชั่น playstation2 เวลาเล่นจะจัดทีมได้ 3 คน ทั้งแบบฟรีสไตล์ และ แบบบังคับตามเงื่อนไขของเนื้อเรื่อง มีจุดหนึ่งที่คนเล่นต้องเข้าใจก่อนเลยว่า ศัตรูของเกมนี้ไม่หมู ยิ่งตอนที่มันจะปล่อยท่าไม้ตาย มันจะอยู่ในสถานะชาร์ตพลังอยู่ ทำให้เวลาเราจะเข้าไปต่อยตี หรือ โจมตี จะทำให้เราเข้าตีไม่ได้ แถมโดนสวนอีกต่างหาก ทีนี้บางตัวมีเล่นใช้ลูปนี้ตลอด ทำเอาเราปวดหัวเพราะต้องใช้การโจมตีแบบอื่นแทน
สรุป
โดยภาพรวมแม้ว่า จะมีจุดตำหนิอยู่บ้างเรื่องการต่อสู้ แต่โดยรวมเกมแอคชั่นแบบ open world อย่างนี้ทำให้เรามีอะไรหลายอย่างให้ทำมาก อีกทั้งทำให้เรารู้จักตัวละครในจักรวาล ดราก้อนบอล ได้อีกหลากหลายแบบด้วย จัดว่า Dragon Ball Z: Kakarot เป็นอีกเกมที่มีอะไรให้ทำเยอะ จนเราใช้เวลาไปกันเกมนี้ได้แบบไม่น่าเบื่อเหมือนกัน